Workplace Harmony: Emotional Management

People Power & Collaborative Culture

ารจัดการอารมณ์ พลังแห่งความสัมพันธ์ และวัฒนธรรมแห่งความร่วมมือ

ผู้เรียนจะมีเครื่องมือจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ พร้อมสื่อสารทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในองค์กรยุคใหม่

สร้างวัฒนธรรม อยู่รอดเติบโต ไปพร้อมกันอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

หลักการและความสำคัญ

หลักสูตร Workplace Harmony: People Power & Collaborative Culture สำคัญต่อพนักงานทุกระดับในองค์กรธุรกิจ เพราะจะช่วยให้บุคลากรในองค์กร

  1. รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง (Emotional Management) ลดการตอบโต้ด้วยอารมณ์ ลดความเครียด และรักษาสมาธิให้พร้อมรับมือกับความกดดันในที่ทำงาน
  2. สร้างทีมที่เข้มแข็งปลอดภัยทางใจ (Ego-Eco) ผ่านกรอบ Ego-Eco-Seva ฝึกทักษะการสังเกต รับฟังเชิงลึก และออกแบบกติกา พื้นที่ปลอดภัย ให้ทุกคนกล้าพูดกล้าพลาด
  3. ปลูกจิตบริการร่วมมือกัน (Seva) โดยใช้เครื่องมือ Action-Over-Words, Peer Support Plan และ Emotional Ladder Coaching สร้างวัฒนธรรมการให้ก่อนรับ (Reciprocity) ที่ช่วยให้ทีมแก้ปัญหาได้ไว ขยายการสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืน


ด้วยการเข้าใจการทำงานของสมอง (Triune Brain) และกลไกเอาตัวรอด (Fight/Flight/Fake/Freeze) ผสานเทคนิค CALMER, R-A-M, DOSE และ NVC ผู้เรียนจะมีเครื่องมือจัดการอารมณ์อย่างเป็นระบบ พร้อมสื่อสารทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในองค์กรยุคใหม่ สร้างวัฒนธรรม อยู่รอดเติบโต ไปพร้อมกันอย่างแข็งแกร่งยั่งยืน


วัตถุประสงค์

  1. การบริหารจัดการอารมณ์กับสภาวะทางอารมณ์อย่างเหมาะสม
  2. ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ และเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ
  3. การสร้างความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) ต่อตนเองและเพื่อนร่วมงาน การสร้างพลังบวก และบรรยากาศในการทำงานที่ดีต่อองค์กร


กลุ่มเป้าหมาย

บุคลากรทุกระดับในองค์กร


เนื้อหาหลักสูตร

ช่วงที่ 1 Principle & Framework

หลักการสำคัญและกรอบแนวคิดการพัฒนา

1. Emotional Management

  • หลักการจัดการอารมณ์ (Emotional Management)
  • ความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และตอบสนองต่ออารมณ์ของตนเองอย่างรับผิดชอบ ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ในตนเอง
  • ประเมินระดับความเชี่ยวชาญในการจัดการอารมณ์

2. Ego Eco Seva Framework

การพัฒนาทักษะการจัดการอารมณ์ :

  • Ego (ความตระหนักรู้และความชำนาญการจัดการตนเอง) : Recognize-Accept-Manage อารมณ์ของตนเอง
  • Eco (การสอดประสานทีม) : สร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจ และฝึก Empathy และสื่อสารเชิงบวกในบริบทของกลุ่ม
  • Seva (จิตบริการ) : ลงมือช่วยเหลือและสนับสนุนผู้อื่น (Collaboration & Reciprocity) เพื่อปลูกฝังวัฒนธรรมการบริการ

3. Triune Brain & Survival Mechanisms

  • การเข้าใจการทำงานของสมอง และกลไกการเอาตัวรอดช่วยให้เราหยุดการตอบสนองอัตโนมัติ เลือกการกระทำอย่างมีสติ และสร้างสรรค์


ช่วงที่ 2 Ego (ตนเอง)

  • ตระหนักรู้ในอารมณ์ตนเอง สามารถสังเกตและกำหนดรู้อารมณ์ของตนเองได้ทันท่วงที
  • ควบคุมอารมณ์ ใช้กระบวนการ RAM / เทคนิค CALMER และ DOSE ในการปรับระดับอารมณ์ให้พร้อมทำงาน
  • สร้างความยืดหยุ่นทางใจ ลดรีแอ็กทีฟ อดทนต่อความเครียดได้ดีขึ้น


ช่วงที่ 3 Eco (ทีม)

  • สร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจ ร่วมกันวางกติกา PS Rule (Psychological Safety) เพื่อให้ทุกคนกล้าพูดกล้าพลาด
  • ฝึก Empathy ใช้ Empathy Map และ Mindful Listening เข้าใจมุมมองเพื่อนร่วมทีม
  • สื่อสารเชิงสร้างสรรค์ การตอบสนองเชิงบวก E+R=O ใช้ I-Message ด้วย 7-Step NVC Drill ลดความขัดแย้ง


ช่วงที่ 4 Seva (ตอบแทนช่วยเหลือร่วมมือ)

  • สร้างแนวคิดการลงมือช่วยเหลือทันที นำ Action-Over-Words ไปใช้ช่วยงานเพื่อน
  • ร่วมมือกันอย่างยั่งยืน ร่าง Peer Support Plan ร่วมกันและลงมือทำตามแผน
  • โค้ชและขยายผล ใช้ Emotional Ladder Coaching ช่วยพัฒนาเพื่อนร่วมทีมจนเกิดวัฒนธรรมบริการร่วมกัน


หลักการสำคัญสำหรับการพัฒนาทักษะในหลักสูตรนี้

1.Ego-Eco-Seva

  • Ego (Self-Mastery): เริ่มต้นจากการรู้จักและรับผิดชอบต่ออารมณ์ตนเองก่อน
  • Eco (Team Resonance): ขยายสู่การเข้าใจและดูแลอารมณ์ในบริบททีม สร้างบรรยากาศปลอดภัยและความไว้วางใจ (Psychological Safety & Empathy)
  • Seva (Servant & Service Mindset): ยกระดับสู่การตอบสนองด้วยจิตบริการ ช่วยเหลือกันและผลักดันเป้าหมายร่วมกัน (Collaboration & Reciprocity)

2.ลดเพิ่มเสริมสร้าง

  • ลด พฤติกรรม Reactive & Toxic Stress
  • เพิ่ม Self-Awareness & Resilience
  • เสริม Empathy & Psychological Safety
  • สร้าง Habits & Networks for Sustainable Collaboration

3.R-A-M Framework

  • Recognize & Name (รู้ตัว)
  • Accept & Claim (ยอมรับ & ถือเป็นของตน)
  • Manage & Aim for Change (จัดการ & เปลี่ยนแปลง)

4.RecognizeReflectRespond

  • Recognize: หยุดสังเกตและตั้งชื่ออารมณ์ (Name it)
  • Reflect: เข้าใจต้นตอและแรงขับของอารมณ์ (Claim it)
  • Respond: เลือกตอบสนองอย่างรับผิดชอบ (Aim & Act)

5.Science-Backed & Experiential

  • ผสมผสานหลักการ Neuroscience (DOSE) จิตวิทยาเชิงบวกเพื่อการจัดการความเครียดและเสริมสร้างความสุขและพลังในการทำงาน (DOSE : D Dopamine : motivation & pleasure / O Oxytocin : bonding & trust / S Serotonin : well-being & mood balance / E Endorphins : natural painkiller)
  • เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (active learning) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่าง



เหตุผลที่ต้องเรียนหลักสูตรนี้

1.ความต้องการขององค์กร

  • สภาพแวดล้อมการทำงานยุคใหม่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ฉับไว และความกดดัน ทั้งภายในและภายนอก
  • พนักงานต้องสามารถจัดการกับความเครียดและอารมณ์เชิงลบได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาประสิทธิภาพและคุณภาพงาน


2.การทำงานเป็นทีม

  • ความร่วมมือ (Collaboration) และความไว้วางใจ (Trust) เป็นหัวใจหลักของนวัตกรรมและผลลัพธ์ที่ดี
  • การขาดทักษะฟัง เข้าใจ และเปิดพื้นที่ปลอดภัย นำไปสู่ Conflict, Silos, และ Silent Withdrawal


3.ผลกระทบต่อผลงานและสุขภาวะ

  • งานวิจัยชี้ว่า Stress Hormones (Cortisol, Adrenaline) ส่งผลให้ Burnout สูงขึ้น และประสิทธิภาพลดลง
  • การกระตุ้น Happy Hormones (Dopamine, Oxytocin, Serotonin, Endorphins) ช่วยเพิ่ม Engagement, Well-Being, และ Retention


4.ความยั่งยืนของการพัฒนา

  • ไม่ใช่เพียงการ อบรมแล้วจบ แต่สร้าง Habit ผ่าน Action Plan, Peer Coaching, และ Micro-Practices ให้ผู้เรียนต่อยอดได้จริง
  • ผสานโมเดลเชิงทฤษฎีและกิจกรรมเชิงปฏิบัติ นำไปสู่ Culture ใหม่ที่ทั้งองค์กรร่วมกันสร้าง



Reserve your next workshop or training.

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @intuit-leader

info.intuitleader@gmail.com

(066) 139-2111 (คุณนุ้ย)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy