Empathic Communication for Building Trust

หลักสูตร ทักษะการสื่อสารอย่างเห็นอกเห็นใจเพื่อสร้างความไว้วางใจ

เพิ่มทักษะในการสื่อสารอย่างเห็นอกเห็นใจ การบริหารความแตกต่างระหว่างคนในทีม การประสานงาน และการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวและจูงใจ

พร้อมทั้งการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รักษาและสร้างโอกาสทางธุรกิจในเชิงรุกแก่องค์กรมากยิ่งขึ้น

หลักการและความสำคัญ


"ผู้คนจะ ไว้วางใจ และยินดีให้ความร่วมมือกันอย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อพวกเขาต่างสามารถรับรู้และเชื่อมั่นได้ว่า

ความต้องการและคุณค่า ของพวกเขาแต่ละฝ่ายได้รับการใส่ใจด้วยความเคารพ"


หลักสูตร Empathic Communication for Building Trust : การสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจในการขับเคลื่อนผลงาน ออกแบบเพื่อให้ผู้เข้าฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจและเพิ่มทักษะในการสื่อสาร การบริหารความแตกต่างระหว่างคนในทีม การประสานงาน และการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวและจูงใจ พร้อมทั้งการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รักษาและสร้างโอกาสทางธุรกิจในเชิงรุกแก่องค์กรมากยิ่งขึ้น


ซึ่งเนื้อหาหลักสูตรจะดำเนินการถ่ายทอดให้ผู้เรียนได้รับทั้ง

Mindset : กรอบความคิด

Knowledge : ความรู้

Skill : ทักษะ

Tools : เครื่องมือการสื่อสาร

และ Attribute : คุณลักษณะหรือรูปแบบการแสดงออกในการสื่อสาร


ผ่านกระบวนการ 4C ดังต่อไปนี้

Confidence: สร้างความมั่นใจในความรู้และทัศนคติในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจ พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงภายในจิตใจ ให้ผู้เรียนสามารถจัดการอารมณ์และบริหารสถานการณ์ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Competence: พัฒนาและฝึกทักษะที่สำคัญสำหรับการสื่อสาร เพื่อให้ผู้นำสามารถใช้ทักษะได้อย่างเป็นธรรมชาติตามสไตล์ของตนเอง

Connect to Implement: ฝึกประยุกต์ใช้ทักษะและเทคนิคกับสถานการณ์จริงของผู้เข้าอบรมเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยในการใช้กับสถานการณ์ที่ต้องกลับไปเผชิญได้มากยิ่งขึ้น

Continuous Development: วางแผนการพัฒนาความรู้ ทักษะที่เรียนไปประยุกต์ใช้กับสถาน การณ์จริงในการทำงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างแนวทางใหม่ๆในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจและสร้างผลลัพธ์ในการทำงานด้วยตนเอง


วัตถุประสงค์และผลที่จะได้รับในภาพรวมของหลักสูตร

  1. เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการบริหารทีมและการประสานงาน ช่วยเหลือ สนับสนุน และสร้างความไว้วางใจในการบริหารทีม
  2. สามารถสร้างกลยุทธ์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และสร้างความไว้วางใจในการสื่อสารเพื่อการบริหารผลงาน การจูงใจทีมงาน ประสานงานและการทำงานร่วมกันให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น
  3. เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงาน / ทีมงาน / คนในองค์กรหรือลูกค้าที่มีมุมมอง / ทัศนคติ / วิถีปฏิบัติ / สไตล์การทำงาน / วิธีการพูด / รูปแบบการแสดงออกของแต่ละคนที่แตกต่าง ให้สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันโดยมุ่งสู่เป้าหมายเดียวอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


กลุ่มผู้อบรมที่เหมาะสม

  • หัวหน้างาน / ผู้จัดการ / ผู้บริหาร
  • จำนวนรุ่นละ 30 คน และสามารถเข้าร่วมอบรมได้เต็มเวลาของหลักสูตร


รายละเอียดเนื้อหาหลักสูตร

ช่วงที่ 1: What's a formula for developing trust? สูตรในการพัฒนาความไว้วางใจคืออะไร?

วัตถุประสงค์

  • การตระหนักรู้และการยอมรับจุดแข็งของตนเอง จะช่วยให้เรามีความตั้งใจมากขึ้นในการตัดสินใจ ทำงานและการคิด ที่สำคัญที่สุด จุดแข็งของเราจะช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างกัน

เนื้อหา

  • Recipes of TRUST สูตรสำเร็จแห่งความไว้วางใจ
  • 13 Competencies & Characteristic of TRUST พฤติกรรม 13 ประการของความไว้วางใจสูง
  • Self Affirmation with Strengths Based Leadership การใช้จุดแข็งเพื่อยืนยันตนเอง


ช่วงที่ 2: แนวคิดและความสำคัญในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจกันและกันอย่างแท้จริง

วัตถุประสงค์

  • เข้าใจแนวคิด ความสำคัญและกระบวนการของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการประสานงาน การบริการ ช่วยเหลือสนับสนุน ในการทำงานร่วมกัน
  • มีทัศนคติที่ดีต่อการสื่อสารและพร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารของตนเองให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เนื้อหา

  • ความสำคัญของการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจกันและกันอย่างแท้จริง (Empathic Communication) เพื่อการบริหารผลงานในองค์กร
  • หลักการและกระบวนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • องค์ประกอบและกระบวนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • ทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจและผลลัพธ์ในการทำงาน
  • ความแตกต่างของการสื่อสารในรูปแบบที่แตกต่างกัน
  • Assertive Communication vs Aggressive Communication
  • Empathy vs Sympathy
  • Explore vs Analysis
  • Reflection vs judge
  • Influencing vs Managing
  • Requestion vs Command


ช่วงที่ 3: สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการสื่อสารในการบริหารทีมและการขับเคลื่อนผลงาน

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักรู้ในรูปแบบและผลลัพธ์ในการสื่อสารของตนเองในปัจจุบัน
  • เพื่อให้ผู้เรียน มองเห็น เข้าใจ ยอมรับ และยินดีปรับเปลี่ยนหรือพัฒนา กรอบความคิดและรูปแบบการสื่อสารของตนเองใหม่

เนื้อหา

  • สำรวจแนวคิดและมุมมองในปัจจุบันเกี่ยวกับการสื่อสารในการบริหารทีมและบริหารงาน
  • สำรวจเป้าหมายเพื่อการพัฒนาการสื่อสารสำหรับการขับเคลื่อนผลงานให้มีประสิทธิภาพ
  • สำรวจหลุมพรางทางความคิดที่ส่งผลให้การสื่อสารล้มเหลว
  • สำรวจพฤติกรรมการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง (โรค 6 B: เบิ้ล-ใบ้-บี้-โบ้ย-บล็อก-เบลม)


ช่วงที่ 4: ทักษะการเข้าใจคนและวิเคราะห์วิธีการสร้างสัมพันธ์เพื่อการบริหารความแตกต่างและขับเคลื่อนผลงาน

วัตถุประสงค์

  • ฝึกทักษะการอ่านและเข้าใจคน เพื่อให้สามารถมองเห็นคุณค่าและจุดแข็ง คุณลักษณะ และสไตล์การทำงานที่แตกต่างเฉพาะบุคคล ทั้งภายในตนเองและผู้อื่น
  • เพื่อเข้าใจสาเหตุแห่งพฤติกรรมการทำงานที่แตกต่าง
  • กำหนดแนวทางการสื่อสารให้เหมาะกับคนแต่ละสไตล์ และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
  • สามารถสร้างกลยุทธ์ในการสร้างความสัมพันธ์และสร้างความไว้วางใจในการสื่อสารและการทำงานร่วมกันให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น ได้ด้วยตนเอง

เนื้อหา

  • 4 Element for Communication with Different People เรียนรู้หลักการสื่อสารกับบุคคลในมิติต่างๆ ในองค์กร ทั้งกับผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บริหารในระดับที่สูงกว่าเพื่อนร่วมงาน และผู้บริหารในระดับเดียวกัน
  • ART : ศิลปะการสื่อสารและการสร้างความไว้ใจในการทำงานร่วมกัน
  • A : Approach การเข้าหาและการบริหารคนตามสภาวการณ์และสไตล์การทำงาน
  • การอ่านและเข้าใจคนแต่ละประเภท และการประยุกต์ใช้กับบริบทของการเป็นผู้นำ
  • วิเคราะห์รูปแบบการตัดสินใจที่แตกต่างกันและวิธีโน้มน้าวใจคนแต่ละประเภท
  • ทักษะการเข้าใจและเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของทีมงาน
  • R : Rapport การพิชิตจิตใต้สำนึกและจูงใจทีมงาน
  • อิทธิพลของความแตกต่างทางบุคลิกภาพอันส่งผลต่อความไว้วางใจ และความขัดแย้งของผู้คน
  • T : Trust การสร้างความไว้วางใจสร้างศรัทธาสำหรับผู้นำด้วยการเปิดโอกาสให้ทีมงานได้ใช้ศักยภาพและคุณค่าภายในตนเอง

กิจกรรม

Dealing with different Personalities at work : วิเคราะห์และออกแบบแนวทางการสร้างสัมพันธ์ของตนเองกับคนที่แตกต่าง เพื่อให้สามารถบริหารคนและทำงานกับหน่วยงานอื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่าน 3V Model


วันที่ 2

ช่วงที่ 5: ฝึกทักษะการฟังเชิงลึกและการใช้คำถามเพื่อแสดงความเข้าใจคนที่แตกต่าง

  • ทักษะการฟังเชิงลึกด้วยหลักการทางจิตวิทยา Satir transformational systemic therapy
  • การเข้าใจสาเหตุแห่งพฤติกรรม
  • การเข้าใจความรู้สึก
  • การเข้าใจกรอบความคิดและศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายใน
  • ค่านิยม / ความเชื่อ / ความรู้ / ประสบการณ์
  • การเข้าใจความคาดหวัง
  • การเข้าใจความปรารถนาที่แท้จริงที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดพฤติกรรม
  • สิ่งที่เป็นอิทธิพลและส่งผลต่อการฟัง
  • บทบาท (หมวกที่ใส่) ในขณะนี้
  • จุดประสงค์ (เจตนา) ของการฟังในครั้งนี้
  • กรอบความคิด (Mindset) ที่ใช้ในการฟัง
  • ความสามารถในการรับรู้ (Perception) ในขณะนั้น
  • สภาวะอารมณ์ (Emotion) ที่เกิดขึ้น
  • การให้ความหมาย (Meaning) ในเรื่องที่ได้ยิน
  • หลุมพรางทางความคิดที่ส่งผลให้เกิดการฟังที่ล้มเหลวและก่อให้เกิดความขัดแย้ง
  • 8 รูปแบบพฤติกรรมการฟังที่ทำให้คนไม่เข้าใจกันและกัน
  • การใช้คำถามเพื่อการแสดงความเข้าใจผู้อื่นและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • การใช้คำถามพูดคุยเรื่องทั่วไปและสร้างความสัมพันธ์ (Small Talk Topics and General Questions)
  • การใช้คำถามสำรวจตนเอง (Explored Questions)
  • การใช้คำถามเพื่อความกระจ่างชัด (Clarifying Questions)
  • การใช้คำถามเพื่อแสดงความเข้าใจเชิงลึก (Insightful Questions)
  • หลุมพรางในการใช้คำถามที่อาจก่อให้เกิดการตัดสินและความขัดแย้ง

กิจกรรม

Deep listening & Reflection / Powerful question เทคนิคการฟังและการถาม เพื่อการแสดงความเข้าใจที่แท้จริงและจับประเด็นที่สำคัญ

ฝึกปฏิบัติ

เทคนิคการรับมือกับคำพูดเชิงลบที่กระทบจิตใจและรับฟังได้ยาก พร้อมทั้งฝึกการสนทนาอย่างสร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนแปลงความขัดแย้ง Empathy and Active listening


ช่วงที่ 6: ทักษะการใช้คำพูดและการสื่อสารเพื่อเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งด้วยหลักการของ NVC (Nonviolent Communication)

วัตถุประสงค์

  • สามารถสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ปราศจากการตีความ การประเมิน และตัดสินจากทัศนคติของตนเอง เพื่อจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันได้อย่างนุ่มนวลโดยสันติวิธี
  • ได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือจากผู้ร่วมงาน จนถึงขั้นกล้าพูดคุยเรื่องส่วนตัวหรือปัญหาส่วนตัวเพื่อขอคำปรึกษา ซึ่งส่งผลต่อการช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจกัน และหาทางออกร่วมกันอย่าง Win-Win
  • เชื่อมรอยร้าว ผสานรอยต่อ และลดระยะห่างของความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร่วมงาน / ทีมงาน / คนในองค์กรหรือลูกค้า ที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งภายในใจ อันเนื่องมาจากมุมมอง ทัศนคติ หรือวิถีปฏิบัติ (สไตล์การทำงาน / วิธีการพูด / รูปแบบการแสดงออกของแต่ละคน) ที่แตกต่างกัน
  • สามารถสลายอัตตา และอคติทั้งภายในตนเอง ผู้ร่วมงาน ลูกน้อง คู่ค้า และลูกค้า ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข อันนำไปสู่การขับเคลื่อน Performance ของตนเอง ทีมงาน และองค์กรต่อไป (ปั้น ความสุข ปลุก Performance)

เนื้อหา

  • การสื่อสารเพื่อการให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง (ข้อสังเกต vs. การตีความ)
  • การสื่อสารเพื่อบอกและให้ความเข้าใจ (ความรู้สึก vs. ความคิด)
  • การสื่อสารเพื่อบอกและให้ความเข้าใจ (ความต้องการ vs. วิธีการ)
  • การสื่อสารเพื่อการเจรจาต่อรองในการทำงานในรูปแบบ (การร้องขอ vs. การเรียกร้อง (สั่ง))

Workshop

7 ขั้นตอน การสื่อสารเพื่อเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งและโน้มน้าวใจผ่านหลักการ NVC


ช่วงที่ 7: เทคนิคการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือในการขับเคลื่อนผลงาน

วัตถุประสงค์

  • ผู้เข้าอบรมสามารถเรียบเรียงข้อมูลในการสื่อสารให้ผู้ที่ต้องการสื่อสารด้วยเข้าใจได้ง่ายและง่ายต่อการจดจำได้มากขึ้น
  • ผู้เข้าอบรมสามารถนำเสนอไอเดียหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหาในการทำงานผ่านการวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของแนวทางในการแก้ไขปัญหาในแต่ละวิธีการ ส่งผลให้ได้รับความน่าเชื่อถือจากทีมงานและผู้ร่วมงานจากหน่วยงานอื่นๆ นอกจากนี้ยังส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจในการทำงานจากผู้บังคับบัญชามากยิ่งขึ้น
  • สามารถใช้การสื่อสารในการให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อให้ข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์และสร้างกำลังใจที่ดี

เนื้อหา

  • เทคนิคการสื่อสารแบบกระชับ ด้วย Think & Speak
  • เทคนิคการนำเสนอไอเดียอย่างมีตรรกะ (BEPS Model)
  • เทคนิคการรายงานเพื่อขับเคลื่อนผลงาน (T-GROW Model)
  • เทคนิคการให้ข้อมูลป้อนกลับเชิงสร้างสรรค์ (Art of Giving Feedback)
  • เทคนิคการให้กำลังใจและการชื่นชม (Recognition of Strengths)



สิ่งที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับหลังจากการฝึกอบรม

ในบริบทการพัฒนาตนเอง

ความสัมพันธ์ในครอบครัว (Personal Growth / Family)

  • การคลี่คลายความขัดแย้งภายในตัวเองและกับผู้อื่นด้วยความนุ่มนวล
  • การสร้างความมั่นคงภายในแม้อยู่ท่ามกลางสภาพอารมณ์ที่สับสน วุ่นวาย และขัดแย้ง ทั้งของตัวเองและผู้อื่น
  • การเยียวยาและเรียนรู้ความเจ็บปวดภายในใจที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างมั่นคง
  • การพัฒนาและยกระดับจิตสำนึก ให้เจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ


ในบริบทของผู้นำ

การทำงานในองค์กร (Leadership / Workplace)

  • การสร้างความมั่นคงภายในแม้อยู่ท่ามกลางสภาพอารมณ์และบรรยากาศองค์กรที่สับสนวุ่นวาย และขัดแย้ง ทั้งของตัวเองและผู้อื่น
  • การสร้างความสมดุลระหว่างการใช้อำนาจและการมีส่วนร่วมเพื่อการทำงานที่มีชีวิตชีวาและสัมพันธภาพที่ดี
  • การรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในที่ทำงาน เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันจนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ได้ทั้งใจและได้ทั้งงาน
  • การจัดการความขัดแย้งภายในตัวเองและกับผู้อื่น เพื่อแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังแห่งความสร้างสรรค์ และการเจริญเติบโตในการทำงานร่วมกัน
  • การพัฒนาและยกระดับจิตสำนึก เพื่อการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ เป็นผู้นำที่มีพลัง และ สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เข้ามากระทบในแต่ละวัน
  • สามารถเลือกกลยุทธ์การสื่อสารผ่านเครื่องมือต่างๆมาใช้ในการขับเคลื่อนผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • พัฒนาทีมงานให้มีประสิทธิภาพผ่านบทบาทและเครื่องมือที่แตกต่างกัน เพื่อการขับเคลื่อนผลงานสู่เป้าหมาย



Reserve your next workshop or training.

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @intuit-leader

info.intuitleader@gmail.com

(066) 139-2111 (คุณนุ้ย)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy